วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การนวดแผนไทย

ประวัติการนวดไทย
นวดแผนไทย เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ซึ่งถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของไทยที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล และได้สืบสานต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบันนี้อยู่คู่กับสังคมไทยเรามาไม่เสื่อมคลาย ในยุคสมัยปัจจุบันนี้นวดแผนไทยเรากลับได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งจากคนไทยเราเองและชาวต่างชาติ ถึงกับมีคำกล่าวว่า “ ถ้ามาเมืองไทยจะต้องได้นวดแผนไทย ” โดยเฉพาะชาวยุโรปหลายๆ ชาติ ที่ได้เข้ามาในเมืองไทยรวมทั้งชาวอเมริกาที่มีความสนใจ และเข้าเรียนการนวดแผนไทยกันเป็นจำนวนไม่น้อย ในต่างประเทศ ก็ได้มีการเปิดบริการทางการนวดแผนไทยขึ้นสร้างรายได้ให้อย่างมาก และหมอนวดแผนไทยเราก็ได้รับการกล่าวขวัญถึงและเป็นที่ต้องการเพื่อไปบริการในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ที่เป็นหมอนวดเองเป็นอย่างมากอีกทั้งเป็นการสร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับประเทศชาติด้วย นวดแผนไทยนับวันก็จะกว้างไกลแม้ในสังคมไทยก็มีให้บริการอยู่ทุกหนทุกแห่ง สามารถประกอบเป็นอาชีพได้อย่างมั่นคง การนวดแผนไทยมากมายด้วยคุณค่าจึงยังทำให้สามารถอยู่คู่ฟ้าแผ่นดินไทยมาได้นานตราบเท่าทุกวันนี้
ปัจจุบัน เป็นที่น่ายินดีที่มีผู้ให้ความสนใจและต้องการเข้ามาเรียนวิชาการนวดแผนไทย เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ผู้คนที่ได้สัมผัสกับการนวดแผนไทยก็ให้การยอมรับเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่สามารถบ่งบอกได้ว่า วิชาการนวดแผนไทยเราสามารถเรียนและฝึกฝนนำไปประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง
การนวดแผนไทยมีคุณค่า หากแต่ถ้าการนวดแผนไทยนั้นนวดโดยไม่ถูกต้อง แทนที่จะสบายก็อาจจะเป็นการทำให้บาดเจ็บได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่จะทำการนวดแผนไทยได้ถูกต้องจึงควรเรียนและฝึกหัดให้เกิดความชำนาญเพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งตัวผู้นวดเองและต่อผู้รับการนวดด้วย
ความเป็นมาของการนวดไทย
การนวดแผนโบราณ เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่มีมาแต่ครั้งโบราณซึ่งเกิดจากสัญชาตญาณของการอยู่รอด เมื่อมีอาการปวดเมื่อยหรือเจ็บป่วย ตนเองหรือผู้ที่อยู่ใกล้เคียงมักจะลูบไล้หรือบีบนวดบริเวณดังกล่าวทำให้อาการปวดเมื่อยคลายลงได้แรกๆก็กระทำไปโดยมิได้ตั้งใจ ต่อมาได้เริ่มสังเกตเห็นผลจากการบีบนวดในบางจุดหรือบางวิธี จึงได้จดจำไว้เป็นประสบการณ์และกลายเป็นความรู้ที่ได้สืบทอดกันต่อๆมา จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งความรู้ที่ได้จึงสะสมจากลักษณะง่ายๆไปสู่ความสลับ ซับ ซ้อนยิ่งๆขึ้น กระทั่งรวบรวมสร้างขึ้นเป็นทฤษฎีการนวดจึงได้กลายมาเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีบทบาทในการบำบัดรักษาอาการหรือโรคภัยบางอย่าง
เชื่อกันว่า รากฐานการนวดแผนโบราณมาจากประทศอินเดีย โดยหมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งเป็นแพทย์ประจำราชวงศ์สักยะ และเป็นแพทย์ประจำองค์พระพุทธเจ้าได้เป็นผู้ริเริ่มขึ้นในสมัยพุทธกาล ได้แพร่หลายเข้ามาสู่ประเทศไทยเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด พบว่ามีการนวดกันเฉพาะแต่ในรั้วในวังโดยจะนวดแต่พระเจ้าแผ่นดินหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เท่านั้นต่อมาภายหลังจึงเริ่มกระจายไปสู่บุคคลทั่วไป เนื่องจากผู้นวดดังกล่าวได้มีอายุมากขึ้นและเกษียณราชการได้กลับไปอยู่บ้านแล้วได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่ลูกหลานเพื่อนบ้านใกล้เคียงสืบต่อกันมา

ในแผ่นดินสมัยอยุธยา
ประมาณปี พ.ศ. ๒๓๐๐ การนวดแผนโบราณได้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และได้เริ่มมีการเขียนตำราเกี่ยวกับการนวดแผนโบราณไว้ในใบลานโดยจารึกไว้เป็น ภาษาบาลี ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ กรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาจนเสียหายอย่างหนักทำให้ตำราเกี่ยวกับการนวดแผนโบราณเหล่านี้ก็พลอยสูญหายไปด้วย ( ถูกเผา ) คงเหลือเป็นบาง ส่วน

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
สมัยรัชกาลที่ ๑ ในปี พ.ศ. ๒๓๓๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ทรงโปรดให้มีการจารึกตำรายาและตำราฤๅษีดัดตนไว้ตามศาลาราย
สมัยรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดให้มีการรวบรวมและสลักไว้บนฝาผนังที่วัดพระเชตุพนฯ ( วัดโพธิ์ ) และตำราในส่วนนี้เองที่เป็นรากฐานของการนวดแผนโบราณในปัจจุบัน
ในจดหมายเหตุของลาลูแบร์กล่าวไว้ว่า ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าฯให้ชำระคัมภีร์แพทย์ทั้งมวลให้เป็นที่ถูกต้องและจดบันทึกไว้ในสมุดข่อย เก็บไว้ ในครั้งนั้น กรมหมื่นภูบดีราชหฤทัย ร่วมกับกรมหมื่นอักษรสาสน์โสภณ และหลวงสารประเสริฐ ชำระตำราแผนนวดไว้ด้วยได้เป็น “ ตำราแผนนวดฉบับหลวง ” นอกจาก นั้นในสมัยนี้ยังมีการสอนวิชาหมอนวดให้กับนักเรียนแพทย์ชั้นปีที่ ๓ ในโรงเรียนราชแพทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยด้วย แต่ต่อมาได้เลิกทำการสอนไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นผู้ที่มีชื่อเสียงมากในการนวดในขณะนั้นคือ หมออินเทวดา ซึ่งเป็นหมอนวดในราชสำนักได้ถ่ายทอดวิชานวดทั้งหมดให้แก่บุตรชายคือ หมอชิต เดชพันธ์ ซึ่งต่อมาได้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ลูกศิษย์ ความรู้เกี่ยวกับการนวดแผนโบราณนั้นได้เริ่มแพร่หลายและเปิดกว้างสำหรับบุคคลทั่วไปเมื่อประมาณ ๓๐ กว่าปีมานี้
ความหมายและความสำคัญของการนวดไทย

“ การนวดไทย ” หมายความว่า การตรวจประเมิน การวินิจฉัย การบำบัด การป้องกัน การป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพและการฟื้นฟูสุขภาพ ด้วยวิธีการกด การคลึง การดึง การดัด การบีบ การจับ การประคบ การอบ หรือ วิธีการอื่นตามศิลปะการนวดไทย หรือการใช้ยาตามกฎหมายว่าด้วยยา ทั้งนี้ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย
หลักและวิธีการนวดแผนไทย เป็นวิชาที่มีลักษณะพิเศษเป็นเอกลักษณ์การนวดที่ใช้รูปแบบการนวดหลากหลายวิธีการแตกต่างกัน ซึ่งในแต่ละวิธีก็จะยึดถือเอาโครงสร้างตามแนวพลังเส้น 10 และเส้นบริวารอีก 72000 เส้น เป็นพื้นฐานเหมือนๆ กัน


การนวดแผนไทย โดยทั่วไป มี 2 สาย
1. การนวดแบบทั่วไป( การนวดสายเชลยศักดิ์ ) หมายถึง การนวดแบบสามัญชน ใช้การสืบทอดจากคนรุ่นเก่ามาสู่คนรุ่นใหม่ด้วยการฝึกฝนและการบอกกล่าว มีแบบแผนการนวดตามวัฒนธรรมท้องถิ่นประกอบกับประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาของครูนวดแต่ละท่าน และทฤษฎีที่ยึดถือเป็นหลักนั้นอ้างอิงมาจากทฤษฎีเส้น 10 ที่จารึกอยู่บนผนังศาลารายในวัดโพธิ์ การนวดแบบนี้เน้นการช่วยเหลือกันเองในครอบครัว หรือในชุมชนซึ่งนับว่าเป็นการพึ่งพาตนเองของประชาชนได้เป็นอย่างดี การนวดในสายนี้นั้นไม่เพียงแต่ใช้มือนวดเท่านั้นยังใช้อวัยวะส่วนอื่นของร่างกายอีก เช่น ศอก ท่อนแขน ส้นเท้า หรือ การนั่งดัดตัวผู้ถูกนวด ซึ่งเป็นการผ่อนแรงของผู้นวดได้อย่างมาก เนื่องจากการนวดมักใช้เวลาในการนวดแต่ละครั้งนั้นมาก จึงทำให้ผู้ถูกนวดรู้สึกสบายจนอาจหลับไป การนวดแบบนี้พบได้ทั่วไปในชุมชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท และได้รับความสนใจอย่างมากในสังคมไทยปัจจุบันรวมถึงชาวต่างชาติด้วย
2. การนวดแบบราชสำนัก หมายถึง การนวดเพื่อถวายกษัตริย์และเจ้านายชั้นสูงของราชสำนัก ใช้การสืบทอดโดยพิจารณาถึงคุณสมบัติของผู้เรียนอย่างประณีตถี่ถ้วน และการสอนจะมีขั้นตอน จรรยามารยาทของการนวด หลักการฝึกมือและแบบแผนของการนวดจะมีเอกลักษณ์เฉพาะ การนวดในสายนี้นั้นมักนวดนิ้วมือเท่านั้น เพื่อให้สามารถควบคุมน้ำหนัก และไม่ให้เป็นที่ล่วงเกินต่อพระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์จนมีคำกล่าวว่า “ แม้เพียงลมหายใจก็ไม่ให้แตะต้องพระวรกาย ” โดยมีองศาของการนวดที่ไม่ประชิดตัวมากและจะหันหน้าไปจากพระวรกายเพื่อไม่ให้หายใจรดพระองศ์

การนวดไทยเป็นที่นิยมและยอมรับมากในสมัยโบราณ เป็นผู้ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจของพระมหากษัตริย์ ในสมัยนั้นจนได้รับการแต่งตั้งให้มีกรมหมอนวดซ้าย กรมหมอนวดขวา ทำให้หมอนวดสามารถรับราชการอยู่ในตำแหน่งระดับสูงได้
ความสำคัญของการนวดแผนไทย การนวดแผนไทยก่อให้เกิดประโยชน์ตามองค์ประกอบของการมีสุขภาพดีทั้ง 4 ด้าน คือ
ด้านการส่งเสริมสุขภาพ
ด้านการป้องกันโรค
ด้านการรักษา
และด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ
การนวดแผน ไทยนั้นมีคุณค่าต่อการพึ่งพาตนเองเป็นอย่างมาก สามารถบรรเทาโรคและอาการปวดต่าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ข้อติดขัด กระตุ้นกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น: